วันอังคารที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2553

ฝึกงานวันที่ 2 HTML,XML,XHTML และ CSS คืออะไร


HTML (Hyper Text Markup Language)

HTML ย่อมาจากคำว่า Hyper Text Markup Language คือภาษาคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการแสดงผลของเอกสารบน website หรือที่เราเรียกกันว่าเว็บเพจ ถูกพัฒนาและกำหนดมาตรฐานโดยองค์กร World Wide Web Consortium (W3C) และจากการพัฒนาทางด้าน Software ของ Microsoft ทำให้ภาษา HTML เป็นอีกภาษาหนึ่งที่ใช้เขียนโปรแกรมได้ หรือที่เรียกว่า HTML Application 
       HTML
 เป็นภาษาประเภท Markup   สำหรับการการสร้างเว็บเพจ โดยใช้ภาษา HTML สามารถทำโดยใช้โปรแกรม Text Editor ต่างๆ เช่น Notepad, Editplus หรือจะอาศัยโปรแกรมที่เป็นเครื่องมือช่วยสร้างเว็บเพจ เช่น Microsoft FrontPage, Dream Weaver ซึ่งอํานวยความสะดวกในการสร้างหน้า HTML ส่วนการเรียกใช้งานหรือทดสอบการทำงานของเอกสาร HTML จะใช้โปรแกรม web browser ในการแสดงผล

XML (eXtensible Markup Language)

ปัจจุบันเทคโนโลยีมีแพลตฟอร์มมากมาย หลากหลายภาษา แต่ละภาษาก็จะคุยกันด้วยสำนวนของมันเอง ในงานที่ต้องใช้แพลตฟอร์มหลากหลาย จะมีปัญหาก็คือมันจะทำงานร่วมกันอย่างไร? จะส่งข้อมูลอย่างไร ? เช่นถ้าจะเขียน ASP.net ให้คุยกับ JSP(Java) หรือภาษาอื่น ๆ ต้องทำอย่างไร ? XML จึงเกิดขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหานี้ มันจะทำหน้าที่เป็นตัวกลางเก็บข้อมูล โดยที่ ASP.net , JSP(Java) หรือภาษาอื่นๆ ต้องสามารถเข้าใจภาษา XML เป็นมาตรฐานอยู่แล้ว 
ขอยกตัวอย่างให้เห็นชัด ๆ ASP.net ต้องการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับ JSP เราก็เขียน ASP.net ให้สร้างไฟล์ XML พร้อมทั้งใส่โครงสร้างและข้อมูลตามที่เราต้องการ จากนั้นเราก็เขียน JSP ให้มาอ่านไฟล์ XML นั้นๆแค่นี้ ASP.net ก็แลกเปลี่ยนข้อมูลกับ JSP ได้แล้ว

       XML คืออะไร ? : เริ่มกันที่ว่า XML ย่อมาจาก Extensible Markup Language เป็นภาษาหนึ่งที่ใช้ในการแสดงผลข้อมูล ถ้าเปรียบเทียบกับภาษา HTML จะแตกต่างกันที่ HTML ถูกออกแบบมาเพื่อการแสดงผลอย่างเดียวเท่านั้น เช่นให้แสดงผลตัวเล็ก ตัวหนา ตัวเอียง เหมือนที่คุณเคยเห็นในเวบเพจทั้วไป แต่ภาษา XML นั้นถูกออกแบบมาเพื่อเก็บข้อมูล โดยทั้งข้อมูลและโครงสร้างของข้อมูลนั้นๆไว้ด้วยกัน ส่วนการแสดงผลก็จะใช้ภาษาเฉพาะซึ่งก็คือ XSL (Extensible Stylesheet Language) 


    โครงสร้างของภาษา XML เป็นอย่างไร ?
ภาษา XML มีโครงสร้างที่ประกอบด้วยแท็ก(Tag)เปิด และแท็กปิด เช่นเดียวกับภาษา HTML แต่ภาษา XML คุณสามารถสร้างแท็กรวมทั้งกำหนดโครงสร้างของข้อมูลได้เอง ซึ่งความสามารถตรงนี้ตัวภาษา HTML ทำไม่ได้เพราะภาษา HTML ถูกกำ

หนดแท็กตายตัวโดย W3C


XHTML (eXtensible Hyper Text Markup Language)

เป็นภาษาที่รวมเอาทั้ง HTML และ XML ไว้ด้วยกัน ประโยชน์ของมันคือการสร้างเว็บเพื่อการส่งข้อมูลทั่ว ๆ ไปอย่างหนึ่ง เพิ่มขีดความสามารถในการสร้างแท็กใหม่ ๆ ได้เองอย่างหนึ่ง (โดยที่เรากำหนดได้ด้วยว่าจะให้แท็กเหล่านั้นแสดงผลอย่างไร) รองรับภาษาอื่น ๆ ที่ใช้ XML เป็นฐาน เช่น (SVG, MathML, chemML, SMIL) อีกอย่างหนึ่งและสุดท้ายคือ รองรับเทคโนโลยีในอนาคตซึ่งจะมี XML เป็นบทบาทหลัก เนื่องจากว่าในปัจจุบันนี้ มีความพยายามที่จะเข้าถึงเว็บด้วยอุปกรณ์ที่ไม่ใช่คอมพิวเตอร์มากขึ้นเช่น โทรศัพท์มือถือ โปรแกรมเสียงสังเคราะห์ ทีวี เบรลล์ หรืออุปกรณ์พกพาอื่น ๆ แต่เนื่องจากอุปกรณ์เหล่านี้ มีขนาดเล็กและอาจมีหน่วยความจำไม่มาก จึงอาจไม่สามารถประมวลผล HTMLแบบทั่ว ๆ ไปได้เพราะไม่มีความสามารถที่จะแก้ข้อผิดพลาดได้หากมีการเขียนโค้ดไม่ถูกต้อง XHTML จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เนื่องจากว่าเอกสาร XHTML นั้นจะต้องมีลักษณะที่เรียกว่า well-formed ไม่มีข้อผิดพลาด มีการเปิดปิดแท็กอย่างถูกต้อง ฯลฯ จึงทำให้สามารถแสดงผลเอกสารนี้ได้อย่างง่ายดาย หากเอกสารไม่ถูกต้อง ก็อาจจะไม่แสดงผลไปเลย เหมือนกับเอกสาร XML

CSS(Cascading Style Sheet)  


     CSS ย่อมาจาก Cascading Style Sheet  มักเรียกโดยย่อว่า "สไตล์ชีต" คือภาษาที่ใช้เป็นส่วนของการจัดรูปแบบการแสดงผลเอกสาร  HTML โดยที่ CSS กำหนดกฏเกณฑ์ในการระบุรูปแบบ (หรือ "Style") ของเนื้อหาในเอกสาร อันได้แก่ สีของข้อความ สีพื้นหลัง ประเภทตัวอักษร และการจัดวางข้อความ ซึ่งการกำหนดรูปแบบ หรือ Style นี้ใช้หลักการของการแยกเนื้อหาเอกสาร HTML ออกจากคำสั่งที่ใช้ในการจัดรูปแบบการแสดงผล กำหนดให้รูปแบบของการแสดงผลเอกสาร ไม่ขึ้นอยู่กับเนื้อหาของเอกสาร เพื่อให้ง่ายต่อการจัดรูปแบบการแสดงผลลัพธ์ของเอกสาร HTML โดยเฉพาะในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงเนื้อหาเอกสารบ่อยครั้ง หรือต้องการควบคุมให้รูปแบบการแสดงผลเอกสาร HTML มีลักษณะของความสม่ำเสมอทั่วกันทุกหน้าเอกสารภายในเว็บไซต์เดียวกัน โดยกฏเกณฑ์ในการกำหนดรูปแบบ (Style) เอกสาร HTML ถูกเพิ่มเข้ามาครั้งแรกใน HTML 4.0  เมื่อปีพ.ศ. 2539 ในรูปแบบของ CSS level 1 Recommendations ที่กำหนดโดย องค์กร World Wide Web Consortium หรือ W3C
     ประโยชน์ของ CSS
1.CSS มีคุณสมบัติมากกว่า tag ของ html เช่น การกำหนดกรอบให้ข้อความ รวมทั้งสี รูปแบบของข้อความที่กล่าวมาแล้ว
2.CSS นั้นกำหนดที่ต้นของไฟล์ html หรือตำแหน่งอื่น ๆ ก็ได้ และสามารถมีผล กับเอกสารทั้งหมด หมายถึงกำหนด ครั้งเดียวจุดเดียวก็มีผลกับการแสดงผลทั้งหมด ทำให้เวลาแก้ไขหรือปรับปรุงทำได้สะดวก ไม่ต้องไล่ตามแก้ tag ต่างๆ ทั่วทั้งเอกสาร
3.CSS สามารถกำหนดแยกไว้ต่างหากจาก ไฟล์เอกสาร html และสามารถนำมาใช้ร่วม กับเอกสารหลายไฟล์ได้ การแก้ไขก็แก้เพียง จุดเดียวก็มีผลกับเอกสารทั้งหมด
     CSS กับ HTML / XHTML  นั้นทำหน้าที่คนละอย่างกัน โดย HTML / XHTML จะทำหน้าที่ในการวางโครงร่างเอกสารอย่างเป็นรูปแบบ  ถูกต้อง เข้าใจง่าย  ไม่เกี่ยวข้องกับการแสดงผล  ส่วน CSS จะทำหน้าที่ในการตกแต่งเอกสารให้สวยงาม เรียกได้ว่า HTML /XHTML คือส่วน coding ส่วน  CSS คือส่วน desig


สรุปโดย NoOm

ผมขอเรียบเรียงภาษาคนให้เป็นภาษาคนอีกรอบนะครับเพื่อความเข้าใจของผมเอง 
  1. HTML เป็นภาษาที่ใช้สำหรับนำเอกสารมาโชว์ให้คนอื่นดูโดยแสดงผลผ่านทางเว็บเบราว์เซอร์
  2. XML เป็นภาษาที่เขียนเพื่อให้ภาษาอื่นคุยกันได้ (ล่าม) เนื่องจากมีแพลตฟอร์มที่มันหลากหลายจนเกินไปการเขียนจึงต้องถูกต้องที่สุด
  3. XHTML คือเอา HTML กับ XML มารวมกันเพื่อให้ ภาษา HTML นั้นไปแสดงผลได้ในทุกแพลตฟอร์ม
  4. CSS คือตัวควบคุมการแสดงผลในเบราว์เซอร์ ของภาษา HTML และ  XHTML




ข้อมูลอ้างอิง/แหล่งที่มา
http://www.mindphp.com
http://www.nextproject.net/contents/default.aspx?00048

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น